วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

การออกบวช

การออกบวช

การพรรณนาอานิสงส์ของการออกบวช ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญ
ประการหนึ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงอนุปุพพิกถา (อนุปุพพิกถา คือ
เทศนาที่แสดงไปโดยลำดับ เพื่อฟอกอัธยาศัยของสัตว์ให้หมดจด
เป็นชั้นๆ จากง่ายไปหายาก เพื่อเตรียมจิตของผู้ฟังให้พร้อมที่จะ
รับฟังอริยสัจ มี ๕ คือ  ๑. ทานกถา พรรณาทาน  ๒. สีลกถา
พรรณาศีล  ๓. สัคคกถา พรรณาสวรรค์ คือ ความสุขที่พรั่งพร้อม
ด้วยกาม  ๔. กามาทีนวกถา พรรณาโทษของกาม 
๕. เนกขัมมานิสังสกถา พรรณนาอานิสงส์แห่งการออกจากกาม -
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์) เพื่อฟอกจิตของผู้ฟัง
ให้สูงขึ้นตามลำดับ กล่าวคือ เมื่อบุคคลให้ทานและรู้จักการรักษาศีล
ก็เป็นเหตุให้เกิดในสวรรค์ได้ เมื่อเกิดในสวรรค์ ซึ่งบางท่านก็ยังติดอยู่
ในกาม อันไม่ใช่ทางแห่งความพ้นทุกข์ พระองค์ก็ทรงชี้ให้เห็นว่า
กามก็มีโทษทุกข์นานัปการ เพราะฉะนั้น จะต้องออกบวช
เพื่อหาทางแห่งความพ้นทุกข์ในที่สุดได้

คำว่า 'บวช' หรือ การบวช นั้น ภาษาบาลีใช้คำว่า ปพฺพชฺชา 
ไทยเรียกว่า บรรพชา แปลว่า การบวช ถ้าเชื้อพระวงศ์ออกบวช
เรียกว่า 'ทรงผนวช' ไม่ได้ใช้คำว่าบวชเฉยๆ ในสมัยก่อนโน้น เขาเรียก
การบวชว่าบรรพชาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้ใช้คำว่า อุปสมบท
เพราะคำว่า อุปสมบท เกิดทีหลังคำว่าบรรพชา

+ + + + +

ความหมายของคำว่าบรรพชา

บรรพชาก็คือการบวช ความหมายของบรรพชาศัพท์ก็คือ
'การงดเว้น' บรรพชานี้แปลว่า การเว้น หรือ การงดเว้น
เว้นในที่นี้ หมายถึงการเว้น ๓ ประการ คือ

(๑)
เว้นจากบาป เว้นจากสิ่งที่ชั่วร้าย
เว้นจากสิ่งที่ทำจิตของเราให้ตกต่ำ

(๒)
เว้นจากสิ่งที่กันจิตของเราไม่ให้ขึ้นสู่ระดับสูง
(๓)
เว้นจากสิ่งที่ไม่เหมาะไม่สมกับนักบวช

การเว้นข้อที่ ๑ - คือ เว้นจากบาป
เว้นจากความชั่ว อันความชั่วต่างๆ นั้น นักบวชจะต้องเว้น
เว้นด้วยการมีศีล เช่น มีศีล ๕ ก็คือ เว้นจากชั่วแล้ว สิ่งใดที่ชั่ว
ที่ทำให้ใจตกต่ำ ทำให้เกิดในอบาย เช่นทำให้เกิดในนรก
ให้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ผู้บวชจะต้องเว้น ถ้าบวชเข้ามาไม่เว้น
แม้บวชก็เหมือนกับไม่บวช เพราะไม่ได้เว้นจากความชั่ว
หรือจากสิ่งที่ทำใจของเราให้ต่ำลง …

การเว้นข้อที่ ๒ - เว้นจากสิ่งที่กันจิตของตนไม่ให้ขึ้นสู่ระดับสูง
คือ สิ่งใดที่กันใจของตนไม่ให้ขึ้นสู่ระดับสูง แม้ทำแล้วไม่บาป
แต่นักบวชก็ต้องเว้นเหมือนกัน อย่างรับประทานอาหารในตอนเย็น
ที่จริงไม่ได้บาปเพราะชาวโลกทั้งหลายเขาก็รับประทานกัน
แต่นักบวชต้องเว้นเพราะสิ่งนี้กันจิตไม่ให้ขึ้นสู่ระดับสูง ระดับสมาธิได้เพราะว่าอาหารทำให้เกิดราคะได้ง่าย ทำให้นอนหลับมาก ง่วงง่าย
กินมากก็ง่วงง่าย หรือการฟ้อนรำขับร้องประโคมเครื่องดนตรีต่างๆ
นอนเหนือที่นั่งที่นอนที่สูงใหญ่ สิ่งเหล่านี้มันยั่วกิเลส ทำให้เกิดกิเลส
ได้ง่าย ทำให้ใจฟุ้งซ่านได้ง่าย หรือกิเลสประเภทนิวรณ์ เช่น
ความรักใคร่ในทางกาม การผูกพยาบาท การท้อแท้ขี้เกียจ
หรือความฟุ้งซ่านรำคาญ ก็พยายามเว้นสิ่งเหล่านั้นเสีย
เพราะมันกันจิตของเราไม่ให้ขึ้นสู่ระดับสูง นักบวชหรือผู้บวช
จำเป็นต้องหาอุบาย เพื่อละเว้น งดเว้น ให้ไกลจากสิ่งเหล่านี้ให้ได้

การเว้นข้อที่ ๓ - เว้นจากสิ่งที่ไม่เหมาะไม่สมกับนักบวช
เช่น การวิ่ง การเล่นการพนัน การกระโดดโลดเต้น การเล่นกีฬา
ก็ถือว่าไม่เหมาะกับนักบวช ที่จริงก็ไม่ได้บาปอะไร แต่ไม่เหมาะ
กับนักบวช …


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น